วิธีสอนโดยใช้การสาธิต
(Demonstration
Method)
หากว่าการจัดการเรียนการสอนที่ผู้สอนเสนอแบบอย่างให้ผู้เรียนได้เห็นแล้วจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่าการสอนแบบธรรมดาได้นั้น
การสอนโดยใช้วิธีการสาธิต ก็นับว่าเป็นวิธีการสอนที่ผู้สอนสามารถนำไปเป็นวิธีการสอนให้กับผู้เรียนได้เช่นกัน
เพราะการสาธิตเป็นการแสดงแบบหนึ่งที่ผู้เรียนได้เห็นและเข้าใจจากเรื่องราวที่เป็นจริง
ได้สังเกตจากตัวอย่างที่ผู้เรียนได้นำเสนอ ทำให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้น
ชาญชัย ยมดิษฐ์ (2548 : 228)
ได้กล่าวถึงธรรมชาติของการสอนแบบนี้ว่ายังเป็นการสอนที่เน้นผู้สอนเป็นศูนย์กลาง
ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนน้อยเพราะเพียงสังเกตสิ่งที่ครูแสดงขึ้นเท่านั้น
แต่การสอนแบบนี้มีประโยชน์มากสำหรับการนำประสบการณ์ที่ซับซ้อนอธิบายได้ยากมาแสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยผู้มีประสบการณ์
ช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
อย่างไรก็ตามความสำเร็จของการสอนวิธีนี้อยู่ที่ความสามารถในการสาธิตของผู้สาธิตด้วย
ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าการสอนแบบสาธิตสามารถนำไปใช้ร่วมกับการสอนวิธีอื่น ๆ
ได้หลายวิธีในทุก ๆ ส่วนของกิจกรรมการเรียนการสอน
ในบทนี้กล่าวถึง ความหมายของการสอนโดยใช้การสาธิต
จุดมุ่งหมาย องค์ประกอบ ขั้นตอนการสอน เทคนิคและข้อเสนอแนะการสอน
และข้อดีและข้อจำกัดของการสอน พร้อมด้วยการสรุปบทเรียนท้ายบท
และกิจกรรมคำถามท้ายบทด้วย
ความหมาย
สำหรับความหมายของวิธีสอนโดยใช้การสาธิต
ได้มีนักวิชาการหลายท่านให้ความหมายไว้ดังนี้
ทิศนา แขมมณี (2550 : 330) กล่าวว่า วิธีสอนโดยใช้การสาธิต คือ กระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด
โดยการแสดงหรือทำสิ่งที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ให้ผู้เรียนสังเกตดูแล้วให้ผู้เรียนซักถาม
อภิปราย และสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการสังเกตการสาธิต
สิริวรรณ ศรีพหล และ พันทิพา
อุทัยสุข (2540 : 78) กล่าวว่า
การสอนแบบสาธิต คือ การแสดงหรือกระทำพร้อม ๆ
กับการบอกหรืออธิบายเพื่อให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรงในเชิงรูปธรรมซึ่งจะทำให้สามารถเข้าใจมโนมติและหลักการได้ดีขึ้น
อินทิรา บุณยาทร (2542 : 87) ได้อธิบายว่า การสาธิต คือ
วิธีสอนที่ผู้สอนหรือวิทยากรแสดงหรือกระทำให้ดูเป็นตัวอย่างพร้อม ๆ กับการบอก
อธิบายเพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงในเชิงรูปธรรม
ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการสังเกตกระบวนการ ขั้นตอนสาธิตนั้น ๆ
อาภรณ์ ใจเที่ยง (2550 : 142) ได้กล่าวว่า วิธีสอนแบบสาธิต
หมายถึง วิธีการสอนที่ผู้สอนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
(อาจเป็นวิทยากรที่ผู้สอนเชิญมา) แสดงหรือกระทำให้ดูเป็นตัวอย่างพร้อม ๆ กับการบอก
อธิบาย เพื่อให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรงในเชิงรูปธรรม ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการสังเกตกระบวนการขั้นตอนการสาธิตนั้น
ๆ
ไสว ฟักขาว (2544 : 98) อธิบายการสาธิตเป็นการแสดงให้ดู
ซึ่งอาจเป็นการแสดงให้เห็นถึงขั้นตอน วิธีการ ผลที่จะเกิดขึ้นหรือท่าทางต่าง ๆ
โดยอาจทำในรูปของการสาธิตทดลอง หรือสาธิตปฏิบัติ วิธีสอนแบบสาธิต อาจนำไปใช้ร่วมกับวิธีสอนแบบอื่นได้
เช่น สาธิตประกอบการบรรยาย สาธิตประกอบการอธิปราย เป็นต้น
การสอนด้วยวิธีการสาธิต
เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้สอน ไม่ว่าจะเป็นการสอนนักเรียนในระดับใด
โดยเฉพาะเมื่อผู้สอนพบว่าการอธิบายบทเรียนเพียงอย่างเดียวมีข้อจำกัด
กล่าวคือผู้เรียนเกิดความไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในเนื้อหาวิชานั้น ๆ
ไม่เกิดมโนมติหรือสามารถสรุปเนื้อหาที่เรียนไปแล้วได้
หลังจากที่ผู้สอนสอนเนื้อหาดังกล่าวจบแล้ว (สิริวรรณ ศรีพหล และ
พันทิพา
อุทัยสุข, 2540 : 79)
สรุปได้ว่า การสอนโดยวิธีการสาธิต หมายถึง กระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
โดยการแสดงหรือการกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมๆ กับการบอก อธิบาย
เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการสังเกต แล้วให้ผู้เรียนได้ซักถาม
อภิปรายและสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการสังเกตดังกล่าว
จุดมุ่งหมายของวิธีสอนโดยใช้การสาธิต
นักวิชาการหลายท่านได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการสอนโดยใช้การสาธิตไว้ดังนี้
อินทิรา บุณยาทร
(2542 :
88) อธิบายจุดมุ่งหมายของการสอนโดยการสาธิต ดังนี้
1.
เพื่อกระตุ้นความสนใจให้ผู้เรียนมีความสนใจในบทเรียนยิ่งขึ้น
2. เพื่อช่วยอธิบายเนื้อหาวิชาที่ยาก
ซึ่งต้องใช้เวลามาก ให้เข้าใจง่ายขึ้นและประหยัด
เวลา
3. เพื่อให้ผู้เรียนเห็นขั้นตอนการปฏิบัติต่าง
ๆ
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้
อาภรณ์ ใจเที่ยง (2550 : 143) ได้กล่าวว่า จุดมุ่งหมายในการสอนโดยการสาธิตนั้นก็เพื่อแสดงให้ผู้เรียนได้เห็นขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง และสามารถปฏิบัติตามได้
ไสว ฟักขาว (2544 : 98) ได้อธิบายว่า จุดมุ่งหมายของวิธีการสอนแบบสาธิต
มีดังนี้
1.เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นถึงขั้นตอนการปฏิบัติในกิจกรรมบางอย่างที่มีความซับซ้อนและต้องอาศัยทักษะสูง
2.
เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นผลการทดลองที่ผู้เรียนไม่สามารถทดลองเองได้อันเนื่องจากเครื่องมือ
อุปกรณ์ไม่พอที่จะให้ผู้เรียนทดลองทุกคนหรือเป็นการทดลองที่มีอันตราย
ทิศนา แขมมณี (2550 : 330) ได้กล่าวว่า
วิธีสอนโดยใช้การสาธิตเป็นวิธีการที่มุ่งช่วยให้ผู้เรียนทั้งชั้นได้เห็นการปฏิบัติจริงด้วยตาตนเอง
ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องหรือการปฏิบัตินั้นชัดเจนขึ้น
สรุปได้ว่าจุดมุ่งหมายของการสอนโดยใช้การสาธิต
มีดังนี้
1. เพื่อกระตุ้นความสนใจในการเรียนของนักเรียน
2. เพื่อมุ่งช่วยให้ผู้เรียนทั้งชั้นได้เห็นการปฏิบัติจริงด้วยตาตนเอง
ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องหรือการปฏิบัตินั้นชัดเจนขึ้น
3. เพื่อช่วยอธิบายเนื้อหาวิชาที่ยาก
ซึ่งต้องใช้เวลามาก ให้เข้าใจง่ายขึ้นและประหยัด
เวลา
4.
เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นผลการทดลองที่ผู้เรียนไม่สามารถทดลองเองได้อันเนื่องจากเครื่องมือ
อุปกรณ์ไม่พอที่จะให้ผู้เรียนทดลองทุกคนหรือเป็นการทดลองที่มีอันตราย
องค์ประกอบสำคัญของวิธีการสอนโดยใช้การสาธิต
ในการสอนโดยใช้การสาธิตนั้นมีองค์ประกอบที่สำคัญ
4 ประการ ดังที่ ทิศนา แขมมณี (2550 : 330) กล่าวไว้ดังนี้
1. มีผู้สอนและผู้เรียน
2. มีเรื่องหรือสิ่งที่จะสาธิต
3. มีการแสดง/การทำ/ให้ผู้เรียนสังเกตดู
4.มีผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการสาธิต
องค์ประกอบแรกนั้นคือ
ผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนต้องเตรียมสิ่งที่จะสาธิตให้พร้อมโดยคำนึงถึงการรับรู้โดยการมองเห็นของผู้เรียนเป็นสำคัญ
รวมทั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะในการสาธิตเกี่ยวกับวัตถุอันตราย
ส่วนผู้เรียนก็ต้องมีทักษะในการสังเกต คิดวิเคราะห์ตามการสาธิตนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเรียนรู้ได้ชัดเจนขึ้น
ส่วนองค์ประกอบที่สองคือ เรื่องหรือสิ่งที่จะสาธิต
ผู้สอนอาจเชิญบุคคลภายนอกหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรือให้นักเรียนในชั้นเรียนเข้าร่วมในการสาธิตด้วยก็ได้ตามความเหมาะสม
สำหรับองค์ประกอบที่สาม มีการแสดงหรือลงมือปฏิบัติให้นักเรียนดูนั้น
ครูหรือวิทยากรต้องอธิบายประกอบไปตามขั้นตอนโดยไม่รีบเร่งจนเกินไป และสุดท้ายองค์ประกอบที่สี่
ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการสาธิต
ขั้นตอนของการสอนโดยใช้การสาธิต
ขั้นตอนของการสอนโดยใช้การสาธิตนั้น
นักวิชาการกำหนดไว้โดยมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
ทิศนา แขมมณี (2550: 330) ได้เสนอขั้นตอนของการสอนไว้ดังนี้
1. ผู้สอนแสดงการสาธิต
ผู้เรียนสังเกตการสาธิต
2.
ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายและสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการสาธิต
3.
ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ปรีชา คัมภีรปกรณ์ (2538 : 246) ได้เสนอขั้นตอนการสอนโดยใช้การสาธิตไว้ ดังนี้
1.
ขั้นเตรียมการสอน
2.
ขั้นการสาธิต
3.
ขั้นสรุปและประเมินผล
สิริวรรณ
ศรีพหล และ พันทิพา อุทัยสุข (2540 : 81) ได้เสนอแนะรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนออกมาเป็นแผนผังที่น่าสนใจ
ดังนี้
|
|||||||||
![]() |
|||||||||
|
|||||||||
![]() |
|||||||||
|
แผนภาพที่ 3 ขั้นตอนของการสอนด้วยวิธีการสาธิต
(สิริวรรณ ศรีพหล และ พันทิพา อุทัยสุข, 2540 : 81)
จากที่กล่าวมา
สรุปได้ว่าขั้นตอนการสอนโดยใช้การสาธิตอาจแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอน คือ
ขั้นเตรียมการสอน ขั้นการสาธิต
ขั้นอภิปราย สรุปและประเมินผล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.ขั้นเตรียมการสอนโดยใช้การสาธิต
ขั้นเตรียมการสอนโดยใช้การสาธิตนั้นมีลักษณะเฉพาะที่ครูผู้สอนต้องเตรียมสิ่งที่จะสาธิตให้พร้อมโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของบทเรียนเป็นสำคัญ
ซึ่งนักวิชาการได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
สิริวรรณ ศรีพหล และ พันทิพา อุทัยสุข (2540 : 81) ได้เสนอแนะการเตรียมการสอนได้อย่างน่าสนใจว่า
ต้องเรียบเรียงและลำดับขั้นตอนของการสาธิตให้เหมาะสม
โดยพิจารณาว่าสิ่งใดที่จะต้องแสดงก่อน สิ่งใดจะต้องแสดงหลัง
และให้สอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ด้วย
ตอนใดควรเน้นหรือแสดงให้ดูอีกครั้งเพื่อให้การเรียนการสอนกระจ่างชัดขึ้น นอกจากนั้นควรพิจารณาเรื่องระยะเวลาและอาจลองสาธิตดูก่อนเพื่อกะระยะเวลาให้ตามกำหนด
นอกจากนี้ ต้องเตรียมอุปกรณ์ (ถ้ามี) ให้พร้อม สิ่งใดขาดหายไปต้องหาให้ครบ
รวมทั้งตรวจดูความปลอดภัยของอุปกรณ์นั้นๆ ด้วยและเมื่อเตรียมกิจกรรมการเรียนการสอนพร้อมแล้ว
ผู้สอนควรลองปฏิบัติกิจกรรมนั้น ๆ ก่อนเพื่อหาข้อบกพร่องจะได้แก้ไขก่อนนำไปสอนจริง
สุพิน บุญชูวงศ์
(2544 :
47) ได้เสนอขั้นตอนการเตรียมการสอนโดยใช้การสาธิต ไว้ดังนี้
1.
กำหนดจุดมุ่งหมายของการสาธิตให้ชัดเจน และต้องสาธิตให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง
2.
เตรียมอุปกรณ์ในการสาธิตให้พร้อม และตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์
3.
เตรียมกระบวนการสาธิต เช่น กำหนดเวลาและขั้นตอน จะเริ่มต้นดำเนินการและจบลงอย่างไร
ผู้สาธิตต้องเข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆ
เหล่านี้อย่างละเอียดแจ่มแจ้ง
4.
ทดลองสาธิตก่อนสอน ควรทดลองสาธิตเพื่อตรวจสอบความพร้อมตลอดจนผลที่จะเกิดขึ้น
เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในเวลาสอน
5.
ต้องจัดทำคู่มือคำแนะนำหรือข้อสังเกตในการสาธิต
เพื่อที่นักเรียนจะใช้ประกอบในขณะที่มีการสาธิต
ชาญชัย ยมดิษฐ์
(2548 :
221) ได้อธิบายถึงขั้นตอนการเตรียมการสอนโดยใช้วิธีการสาธิตมี อย่างสรุปไว้ดังนี้
1.
เตรียมจุดประสงค์การเรียนรู้
2.
ลำดับเนื้อหา
3.
กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน
4.
กำหนดสื่อและอุปกรณ์การเรียน
5.
กำหนดเวลาและสภาพห้องเรียน
6.
ซักซ้อมการสาธิต
ทิศนา แขมมณี (2550 : 330)
กล่าวถึงการเตรียมการสอนโดยใช้การสาธิตไว้ว่า การเตรียมการ
ผู้สอนจำเป็นต้องมีการเตรียมการพอสมควร
เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่น การเตรียมตัวที่สำคัญคือ
ผู้สอนควรมีการซ้อมการสาธิตก่อนเพื่อจะได้เห็นปัญหาและเตรียมแก้ไข/ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น
ต่อไปจึงจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และจัดวางไว้อย่างเหมาะสมสะดวกแก่การใช้
นอกจากนั้นควรจัดเตรียมแบบสังเกตการณ์สาธิต
และเตรียมคำถามหรือประเด็นที่จะให้ผู้เรียนได้ร่วมคิดและอภิปรายด้วย
สรุปได้ว่า
ขั้นตอนการเตรียมการสอนโดยใช้การสาธิต ผู้สอนควรได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1.
กำหนดจุดมุ่งหมายของการสาธิตให้ชัดเจน และต้องสาธิตให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง
2.
เตรียมอุปกรณ์ในการสาธิตให้พร้อม และตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์
3.
เตรียมกระบวนการสาธิต เช่น กำหนดเวลาและขั้นตอน จะเริ่มต้นดำเนินการและจบลงอย่างไร
ผู้สาธิตต้องเข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆ
เหล่านี้อย่างละเอียดแจ่มแจ้ง
4.
ทดลองสาธิตก่อนสอน ควรทดลองสาธิตเพื่อตรวจสอบความพร้อมตลอดจนผลที่จะเกิดขึ้น
เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในเวลาสอน
5.
ควรจัดเตรียมแบบสังเกตการณ์สาธิต และเตรียมคำถามหรือประเด็นที่จะให้ผู้เรียนได้ร่วมคิดและอภิปรายด้วย
2. ขั้นการสาธิต
ขั้นสาธิตเป็นขั้นที่ผู้สอนได้สาธิต
ได้แสดงให้ผู้เรียนได้เห็นการปฏิบัติ
ซึ่งมีสิ่งคำนึงถึงอยู่หลายประการ ดังที่นักวิชาการได้แนะนำไว้ ดังนี้
ทิศนา แขมมณี (2550 : 330) กล่าวว่า ก่อนการสาธิต
ผู้สอนควรให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สาธิตแก่ผู้เรียนอย่างเพียงพอที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจสิ่งที่สาธิตได้ดี
โดยอาจใช้วิธีบรรยาย หรือเตรียมเอกสารที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนให้ผู้เรียน
หรือใช้สื่อ เช่น วีดีทัศน์
หรือผู้สอนอาจมอบหมายให้ผู้เรียนไปศึกษาเนื้อหาสาระที่จะสาธิตมาล่วงหน้า
นอกจากนั้นควรให้คำแนะนำแก่ผู้เรียนในการสังเกต
หรือจัดทำแบบสังเกตการณ์สาธิตให้ผู้เรียนใช้ในการสังเกตและผู้สอนอาจใช้เทคนิคการมอบหมายให้ผู้เรียนรายบุคคลสังเกตเป็นพิเศษเฉพาะจุดเฉพาะประเด็น
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนตั้งใจสังเกต และมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง
ผู้สอนอาจใช้วิธีการบรรยายประกอบการสาธิต
การสาธิตควรเป็นไปอย่างมีลำดับขั้นตอน ใช้เวลาอย่างเหมาะสม ไม่เร็วเกินไป
ขณะสาธิตอาจใช้แผนภูมิการดานดำหรือแผ่นใสประกอบ และควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม
หรือซักถามผู้เรียนเป็นระยะ ๆ เพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของผู้เรียน
และในบางกรณีอาจให้ผู้เรียนบางคนมาช่วยในการสาธิตด้วย
เทคนิคการสาธิตอีกเทคนิคหนึ่งคือ การใช้การสาธิตเงียบแทนการบรรยายประกอบการสาธิต
และอาจมีการสาธิตซ้ำหากผู้เรียนยังไม่เกิดความเข้าใจชัดเจน
นอกจากนั้นผู้สอนอาจให้ผู้เรียนเป็นฝ่ายแสดงการสาธิตด้วยก็ได้
ในกรณีที่การสาธิตมีสิ่งที่อาจเป็นอันตรายได้ ผู้สอนจะต้องสอนให้ผู้เรียนรู้และระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัย
และควรเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไว้ด้วย
สิริวรรณ
ศรีพหล และ พันทิพา อุทัยสุข (2540 : 81) แนะนำว่า ผู้สอนต้องบอกวัตถุประสงค์ของการสาธิตให้แก่ผู้เรียน
เพื่อผู้เรียนจะได้เข้าใจว่าการเรียนการสอนนั้น ตนจะได้อะไรจากบทเรียนก่อนก็ได้
เพื่อช่วยให้ความเข้าใจกระจ่างชัดยิ่งขึ้น
ขั้นต่อไป
ผู้สอนควรบอกกิจกรรมการเรียนให้แก่ผู้เรียนด้วย กล่าวคือ
ระหว่างการสาธิตจะให้ผู้เรียนทำอะไร เช่น การจดบันทึก การสังเกตกระบวนการ เป็นต้น
ผู้สอนควรบอกกิจกรรมให้ชัดเจน อาจเขียนเป็นคำสั่งบนกระดานก็ได้
ผู้สอนทำการสาธิตไปตามลำดับขั้น
สิ่งใดควรเน้น ควรอธิบายเพิ่มเติมก็ควรทำ
และต้องมั่นใจว่าผู้เรียนในชั้นจะได้เห็นการสาธิตอย่างทั่วถึง
ถ้านักเรียนสงสัยหรือมองไม่เห็นอาจแสดงให้ดูอีกครั้งถ้าไม่เสียเวลาจนเกินไปนัก
สรุปว่า
ในขั้นตอนการสาธิต ผู้สอนควรเริ่มด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะสาธิต
ซึ่งสามารถทำได้โดย การบรรยายใช้เอกสารประกอบ หรือใช้สื่อ วีดีทัศน์ เป็นต้น
จากนั้นจึงให้คำแนะนำแก่ผู้เรียนถึงวิธีการในการสังเกต และการบันทึก โดยมีแบบสังเกตการณ์สาธิตประกอบ แล้วจึงเริ่มการสาธิต
ในขณะที่กำลังสาธิตผู้สอนอาจใช้การบรรยายประกอบการสาธิต และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัย หรือซักถามผู้เรียนเป็นระยะๆ เพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของผู้เรียน
อย่างไรก็ตามการสาธิตเงียบในบางครั้งก็อาจทำให้นักเรียนมีใจจดจ่ออยู่กับการสาธิตนั้นๆ
ได้
3. ขั้นอภิปราย สรุปและประเมินผล
สิริวรรณ
ศรีพหล และ พันทิพา อุทัยสุข (2540 : 81) กล่าวว่า เมื่อการสาธิตสิ้นสุดลง
ผู้สอนควรสรุปความสำคัญของสิ่งที่สาธิตไปนั้น อาจใช้การอธิบายสั้น ๆ ประกอบ
หรืออาจให้ผู้เรียนเป็นผู้สรุปเอง
เพื่อประเมินว่าผู้เรียนมีความเข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ มากน้อยเพียงใด
ผู้สอนอาจใช้วิธีการสรุปโดยการถามปัญหาหรือคำถามกับผู้เรียน
เกี่ยวกับสาระสำคัญของการสาธิต เพื่อประเมินดูว่าผู้เรียนเข้าใจการสาธิตนั้น ๆ
อย่างไร
หรือในบางครั้ง ผู้เรียนอาจยังไม่เข้าใจหรือเข้าใจคลุมเครือในสิ่งที่ตนได้ดูไปในการสาธิต
ผู้สอนก็ควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามหรือแสดงความคิดเห็นภายหลังการสาธิตสิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้น ผู้สอนอาจใช้วิธีการสรุปและประเมินผลผู้เรียนในวิธีต่าง
ๆ กัน เช่น ให้ผู้เรียนบางคนออกมาสาธิตสิ่งที่ได้ดูไปแล้ว
เพื่อทดสอบความสามารถและความเข้าใจ
หรืออาจให้ไปเขียนรายงานเกี่ยวกับกระบวนการและสิ่งที่ได้รับจากการสาธิตนั้น ๆ
ก็ได้ เป็นการประเมินผลผู้เรียนว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบทเรียนนั้น ๆ
สรุปได้ว่าหลังจากการสาธิตแล้ว
ผู้สอนควรให้ผู้เรียนรายงานสิ่งที่สังเกตเห็นพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม
อภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดที่แต่ละคนได้รับ
และนักเรียนสรุปการเรียนรู้ที่ได้รับ
โดยมีครูผู้สอนให้คำแนะนำในการสรุป
ส่วนการประเมินผลการเรียนรู้อาจทำได้โดยใช้คำถาม และให้นักเรียนบางคนออกมาสาธิตสิ่งที่ดูไปแล้ว
หรือการเขียนรายงานเกี่ยวกับกระบวนการหรือสิ่งที่ได้รับจากการสาธิตนั้นๆ
จุดเด่นของการสอนโดยใช้การสาธิต
นักวิชาการหลายท่านกล่าวถึงจุดเด่นของการสอนโดยใช้การสาธิต
ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
ทิศนา แขมมณี (2550 : 331-332)
ได้เสนอแนะถึงข้อดีของการสอนแบบสาธิต คือ
1.เป็นวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงเห็นสิ่งที่เรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม
ทำให้เกิดความเข้าใจและจะจำในเรื่องที่สาธิตได้ดีและนาน
2.
เป็นวิธีการสอนที่ช่วยประหยัดเวลา อุปกรณ์และค่าใช้จ่าย หากใช้ทดแทนการทดลอง
3.
เป็นวิธีที่สามารถสอนผู้เรียนได้จำนวนมาก
อาภรณ์ ใจเที่ยง (2550 : 144-145) กล่าวว่า
ข้อดีของการสอนโดยใช้การสาธิต มีดังนี้
1.
ประหยัดเวลาการลองผิดลองถูกของนักเรียน
และประหยัดวัสดุในการสอนเมื่อสาธิตให้ดูเป็นหมู่หรือทั้งชั้น
2.
นักเรียนสามารถเข้าใจวิธีปฏิบัติได้ดี เพราะเป็นประสบการณ์ตรง
มีตัวอย่างให้ดูจับต้องได้ และเห็นขั้นตอนในการปฏิบัติอย่างชัดเจน
3.
เป็นการกระตุ้นการเรียนการสอน เพราะเปิดโอกาสให้นักเรียนร่วมกิจกรรม
4.
เป็นการฝึกนักเรียนให้รู้จักสังเกต หาเหตุผล และสรุปหลักเกณฑ์ได้
วไลพร
คุโณทัย (2530 : 24) กล่าวว่า การสอนแบบสาธิต มีข้อดีดังนี้
1.
การสาธิตเป็นการนำเข้าสู่บทเรียนอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็น อยากค้นหาคำตอบต่อไปได้
2.
การสาธิตสามารถสร้างความเข้าใจในความคิดรวบยอด หลักการทฤษฎีโดยผู้เรียนสามารถมองเห็นได้โดยตรง
3.
การสาธิตทำให้เห็นจริง ทำจริง เข้าใจได้ง่าย
4.
ประหยัดเวลาของผู้สอนและผู้เรียน เพราะการสาธิตทำให้ผู้เรียนเห็นไปพร้อม ๆ
กันทั้งห้อง
5.
การสาธิตฝึกให้ผู้เรียนรู้จักสังเกต รู้จักคิดหาเหตุผล
และรู้จักสรุปหลักเกณฑ์ได้เอง
6.
การสาธิตสามารถแสดงซ้ำตรงจุดใดจุดหนึ่ง
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจแจ่มแจ้งในจุดที่ต้องการได้
7.
ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน
สิริวรรณ ศรีพหล และ พันทิพา
อุทัยสุข (2540 : 80) ได้อธิบายถึงคุณค่าของการสอนโดยใช้การสาธิตไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
1. เป็นการสอนที่ผู้เรียนสามารถเกิดมโนมติความคิด
และเข้าใจหลักการโดยผ่านการแสดงหรือการกระทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เพราะบางสิ่งบางอย่างหรือกระบวนการบางอย่าง ถ้าแสดงให้เห็นว่าเกิดขึ้นอย่างไร
มีขั้นตอนอย่างไร ฯลฯ แล้ว ย่อมเป็นการง่ายกว่าที่จะอธิบายสิ่งนั้นหรือกระบวนการนั้นๆ ด้วยคำพูด
2.
เป็นการสอนที่ประหยัดเวลาทั้งผู้สอนและผู้เรียน เช่น
บางครั้งครูต้องการอธิบายกระบวนการใดกระบวนการหนึ่ง ซึ่งมีความซับซ้อน
ต้องใช้เวลาในการสอนหลายคาบเรียน จึงจะทำให้ประหยัดเวลาในการอธิบาย
และทำให้ผู้เรียนเข้าใจได้อย่างรวดเร็วด้วย
3. เป็นการสอนที่สามารถผสมผสานกับวิธีการสอนแบบต่างๆ เช่น แบบบรรยาย แบบอภิปราย แบบทดลอง
กล่าวคือมีการสาธิตให้ดูก่อน แล้วนำไปสู่การบรรยาย การอภิปราย
การทดลองหรือการฝึกปฏิบัติ เป็นต้น
4. เป็นการสอนที่เร้าใจผู้เรียน
กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจบทเรียนมากยิ่งขึ้น เพราะการได้ประสบการณ์ตรงย่อมทำความตื่นเต้นให้กับผู้เรียนมากกว่าคำอธิบายธรรมดา
ๆ
5.
เป็นการสอนที่สามารถใช้ได้ในโอกาสต่าง ๆ
กัน เช่น เมื่อต้องการนำเข้าสู่บทเรียน เมื่อต้องการนำไปสู่การแก้ปัญหา
เมื่อต้องการให้ผู้เรียนเกิดแนวคิดในเรื่องหนึ่ง
เมื่อต้องการทบทวนความรู้ที่ได้เรียนไปแล้ว
สรุปได้ว่าการสอนโดยใช้การสาธิตมีจุดเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนหลายประการ
ซึ่งประมวลสรุปประเด็นที่น่าสนใจได้
ดังนี้
1.
เป็นการสอนที่เพิ่มความเข้าใจของผู้เรียน เนื่องจากได้เห็นกิจกรรมการสาธิตตามลำดับขั้นตอนและผู้เรียนจะจำเรื่องที่สาธิตได้ดีและนาน
2.
เป็นวิธีการสอนที่ช่วยประหยัดเวลา อุปกรณ์และค่าใช้จ่าย หากใช้ทดแทนการทดลอง
3.
เป็นวิธีที่สามารถสอนผู้เรียนได้จำนวนมาก
4.
สามารถใช้ผสมผสานกับวิธีสอนแบบต่างๆ ได้ เช่น วิธีสอนโดยใช้การบรรยายหรือการทดลอง
เป็นต้น
5.
เป็นการสอนที่เร้าใจผู้เรียน
6.
การสาธิตสามารถแสดงซ้ำตรงจุดใดจุดหนึ่ง
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจแจ่มแจ้งในจุดที่ต้องการได้
7.
ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้
8.
เป็นการฝึกนักเรียนให้รู้จักสังเกต หาเหตุผล และสรุปหลักเกณฑ์ได้
ข้อจำกัดของวิธีสอนโดยใช้การสาธิต
การสอนโดยใช้การสาธิตเป็นการสอนที่เหมาะกับเรื่องที่ต้องการให้ผู้เรียนได้สังเกต
ฝึกคิด วิเคราะห์หาเหตุผล ซึ่งทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดี อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ครูผู้สอนควรคำนึงถึงก่อนนำวิธีการสอนนี้ไปใช้
ดังที่ ทิศนา แขมมณี (2550 : 331-332) ได้เสนอแนะถึงข้อจำกัดของการสอนโดยใช้สาธิต ดังนี้
1. หากกลุ่มใหญ่ผู้เรียนอาจสังเกตเห็นการสาธิตไม่ชัดเจน
และทั่วถึง
2.
เป็นวิธีที่ผู้สอนเป็นผู้สาธิต จึงอาจไม่เห็นพฤติกรรมของผู้เรียน
3.
เป็นวิธีที่ผู้เรียนอาจมีส่วนร่วมไม่ทั่วถึง และมากพอ
4. เป็นวิธีที่ผู้เรียนไม่ได้ลงมือทำเอง
จึงอาจไม่เกิดความรู้ที่ลึกซึ้งเพียงพอ
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าข้อจำกัดของการสอนโดยใช้การสาธิตที่ควรคำนึง
ได้แก่ หากเป็นการสอนกลุ่มใหญ่
ผู้เรียนอาจสังเกตเห็นการสาธิตไม่ได้ชัดเจนทั่วถึง
และในขณะที่ผู้สอนกำลังสาธิตอาจไม่เห็นพฤติกรรมของผู้เรียน หากผู้เรียนมีส่วนร่วมไม่ทั่วถึงและมากพอ
นอกจากนี้ การสอนโดยใช้การสาธิตนี้เป็นวิธีที่ผู้เรียนไม่ได้ลงมือทำเอง
จึงอาจไม่เกิดความรู้ที่ลึกซึ้งเพียงพอ
สรุปท้ายบท
การสอนโดยวิธีการสาธิต หมายถึง
กระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
โดยการแสดงหรือการกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมๆ กับการบอก อธิบาย
เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการสังเกต แล้วให้ผู้เรียนได้ซักถาม
อภิปรายและสรุปการเรียนรู้ที่ได้จากการสังเกตดังกล่าว
ในการสอนโดยใช้การสาธิตมีจุดมุ่งหมาย
เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน และมุ่งช่วยให้ผู้เรียนทั้งชั้นได้เห็นการปฏิบัติจริงด้วยตาตนเอง
ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องหรือการปฏิบัตินั้นชัดเจนขึ้น นอกจากนี้การสาธิตยังช่วยอธิบายเนื้อหาวิชาที่ยาก
ซึ่งต้องใช้เวลามาก ให้เข้าใจง่ายขึ้นและประหยัดเวลา รวมทั้งเพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นผลการทดลองที่ผู้เรียนไม่สามารถทดลองเองได้อันเนื่องจากเครื่องมือ
อุปกรณ์ไม่พอที่จะให้ผู้เรียนทดลองทุกคนหรือเป็นการทดลองที่มีอันตราย
ขั้นตอนการสอนโดยใช้การสาธิตอาจแบ่งได้เป็น
3 ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมการสอน ขั้นการสาธิต
และขั้นสุดท้ายขั้นอภิปราย สรุปและประเมินผล สำหรับขั้นตอนการเตรียมการสอนโดยใช้การสาธิต
ผู้สอนควรได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 1) กำหนดจุดมุ่งหมายของการสาธิตให้ชัดเจน
และต้องสาธิตให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง 2) เตรียมอุปกรณ์ในการสาธิตให้พร้อม
และตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ 3)
เตรียมกระบวนการสาธิต เช่น กำหนดเวลาและขั้นตอน จะเริ่มต้นดำเนินการและจบลงอย่างไร
ผู้สาธิตต้องเข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆ
เหล่านี้อย่างละเอียดแจ่มแจ้ง 4) ทดลองสาธิตก่อนสอน
ควรทดลองสาธิตเพื่อตรวจสอบความพร้อมตลอดจนผลที่จะเกิดขึ้น
เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในเวลาสอน และ 5)
ควรจัดเตรียมแบบสังเกตการณ์สาธิต
และเตรียมคำถามหรือประเด็นที่จะให้ผู้เรียนได้ร่วมคิดและอภิปรายด้วย
ในขั้นตอนการสาธิต
ผู้สอนควรเริ่มด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะสาธิต ซึ่งสามารถทำได้โดย
การบรรยายใช้เอกสารประกอบ หรือใช้สื่อ วีดีทัศน์ เป็นต้น
จากนั้นจึงให้คำแนะนำแก่ผู้เรียนถึงวิธีการในการสังเกต และการบันทึก โดยมีแบบสังเกตการณ์สาธิตประกอบ แล้วจึงเริ่มการสาธิต
ในขณะที่กำลังสาธิตผู้สอนอาจใช้การบรรยายประกอบการสาธิต และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัย หรือซักถามผู้เรียนเป็นระยะๆ เพื่อกระตุ้นความคิดและความสนใจของผู้เรียน
อย่างไรก็ตามการสาธิตเงียบในบางครั้งก็อาจทำให้นักเรียนมีใจจดจ่ออยู่กับการสาธิตนั้นๆ
ได้
หลังจากการสาธิตแล้ว
ผู้สอนควรให้ผู้เรียนรายงานสิ่งที่สังเกตเห็นพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม
อภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดที่แต่ละคนได้รับ
และนักเรียนสรุปการเรียนรู้ที่ได้รับ
โดยมีครูผู้สอนให้คำแนะนำในการสรุป
ส่วนการประเมินผลการเรียนรู้อาจทำได้โดยใช้คำถาม และให้นักเรียนบางคนออกมาสาธิตสิ่งที่ดูไปแล้ว
หรือการเขียนรายงานเกี่ยวกับกระบวนการหรือสิ่งที่ได้รับจากการสาธิตนั้นๆ
การสอนโดยใช้การสาธิตมีจุดเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนหลายประการ ซึ่งประมวลสรุปประเด็นที่น่าสนใจได้ ดังนี้ 1) เป็นการสอนที่เพิ่มความเข้าใจของผู้เรียน
เนื่องจากได้เห็นกิจกรรมการสาธิตตามลำดับขั้นตอนและผู้เรียนจะจำเรื่องที่สาธิตได้ดีและนาน
2) เป็นวิธีการสอนที่ช่วยประหยัดเวลา อุปกรณ์และค่าใช้จ่าย หากใช้ทดแทนการทดลอง 3)
เป็นวิธีที่สามารถสอนผู้เรียนได้จำนวนมาก 4) สามารถใช้ผสมผสานกับวิธีสอนแบบต่างๆ
ได้ เช่น วิธีสอนโดยใช้การบรรยายหรือการทดลอง เป็นต้น 5) เป็นการสอนที่เร้าใจผู้เรียน 6) การสาธิตสามารถแสดงซ้ำตรงจุดใดจุดหนึ่ง
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจแจ่มแจ้งในจุดที่ต้องการได้ 7) ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้ และ 8)
เป็นการฝึกนักเรียนให้รู้จักสังเกต หาเหตุผล และสรุปหลักเกณฑ์ได้
ข้อจำกัดของการสอนโดยใช้การสาธิตที่ควรคำนึง ได้แก่ หากเป็นการสอนกลุ่มใหญ่ ผู้เรียนอาจสังเกตเห็นการสาธิตไม่ได้ชัดเจนทั่วถึง
และในขณะที่ผู้สอนกำลังสาธิตอาจไม่เห็นพฤติกรรมของผู้เรียน หากผู้เรียนมีส่วนร่วมไม่ทั่วถึงและมากพอ
นอกจากนี้ การสอนโดยใช้การสาธิตนี้เป็นวิธีที่ผู้เรียนไม่ได้ลงมือทำเอง
จึงอาจไม่เกิดความรู้ที่ลึกซึ้งเพียงพอ
คำถามและกิจกรรมท้ายบท
1. จงอธิบายความหมายของ “การสอนโดยใช้การสาธิต” ตามความคิดเห็นของท่าน
2. ลักษณะสำคัญของการสอนโดยใช้การสาธิต
มีอะไรบ้าง
3. จงอธิบายจุดมุ่งหมายของการสอนโดยใช้การสาธิต
4. การสอนโดยใช้การสาธิตจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง
5. ขั้นตอนของการสอนโดยใช้การสาธิตมีขั้นตอนอะไรบ้าง จงอธิบาย
6.
ท่านจะมีเทคนิคและข้อเสนอแนะต่าง ๆ
ในการใช้วิธีสอนโดยใช้การสาธิตให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไรบ้าง
7. จงอธิบายจุดเด่นและข้อจำกัดของการสอนโดยใช้การสาธิต
มาพอสังเขป
8. หากท่านจะเลือกวิธีการสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มากที่สุด
ท่านจะเลือกวิธีการสอนโดยใช้การสาธิตหรือไม่ เพราะเหตุใด
9. ให้ท่านสังเกตการสอนและศึกษาการสอนโดยใช้การสาธิตของครูที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งบันทึกพฤติกรรมการสอนของครู เพื่อไว้ใช้เป็นแบบอย่าง
10. ให้ท่านทดลองฝึกสอนโดยใช้การสาธิต แล้วให้เพื่อนหรือผู้เชี่ยวชาญให้คำติชม
หรืออาจบันทึกวีดีทัศน์ไว้วิเคราะห์การสอนของตนเองก็ได้
No comments:
Post a Comment